เครื่องยนต์ 4 จังหวะ (อังกฤษ: Four-stroke engine) เป็นเครื่องยนต์ที่ใช้ในรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถบรรทุก ที่ใช้เครื่องยนต์ที่มีการเผาไหม้ภายใน สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน (อังกฤษ: petrol engine หรือ gasoline engine) ไอของน้ำมันจะถูกอัดแล้วถูกจุดระเบิดโดยหัวเทียน
"ไอดี" คือส่วนผสมของไอระเหยหรือละอองน้ำมันเบนซินผสมกับอากาศ ไอดีจะถูกดูดเข้ากระบอกสูบหรือฉีดเข้ากระบอกสูบโดยหัวฉีดในช่วงชักดูด และไอดีจะถูกอัดให้มีอุณหภูมิสูงขึ้นประมาณ 700-900 องศาเซลเซียส แล้วไอดีถูกจุดระเบิดโดยประกายไฟประมาณ 25,000 โวลต์ จากเขี้ยวหัวเทียน เรียกช่วงชักนี้ว่าช่วงชักระเบิด หรือ "ช่วงชักงาน" แรงระเบิดทำให้ลูกสูบเลื่อนลง เครื่องยนต์ได้งานในช่วงชักนี้ ทำให้เพลาข้อเหวี่ยงเกิดการหมุน เป็นการเปลี่ยนพลังงานความร้อนเป็นพลังงานกล ช่วงชักคายลูกสูบเลื่อนขึ้น ลิ้นไอดี "ปิด" ลิ้นไอเสีย "เปิด" ไอเสียออกจากกระบอกสูบทางลิ้นไอเสีย ผ่านท่อไอเสีย ออกสู่บรรยากาศ เครื่องยนต์ทำงาน ครบ 4 ช่วงชัก
ช่วงชักดูดลูกสูบเลื่อนจากศูนย์ตายบนลงสู่ศูนย์ตายล่าง ลิ้นไอดีเปิด ไอดีถูกดูดเข้ากระบอกสูบผ่านลิ้นไอดี ลิ้นไอเสียปิดสนิท
ช่วงชักอัดลูกสูบเลื่อนขึ้นจากศูนย์ตายล่าง ขึ้นสู่ศูนย์ตายบนอัดไอดีให้ร้อน 700-900 องศาเซลเซียส ลิ้นไอดีและลิ้นไอเสียปิดสนิท
ช่วงชักอัด ก่อนลูกสูบเคลื่อนที่ขึ้นถึงศูนย์ตายบน หัวเทียนจุดประกายไฟ 25,000 โวลต์เพื่อจุดระเบิดไอดี ลิ้นไอดีและลิ้นไอเสียปิดสนิท
ช่วงชักระเบิด แรงระเบิดทำให้ลูกสูบเลื่อนลง จากศูนย์ตายบน ลงสู่ศูนย์ตายล่าง เปลี่ยนพลังงานความร้อนเป็นพลังงานกล เครื่องยนต์ได้งานในช่วงชักนี้ ลิ้นไอดีและลิ้นไอเสียปิดสนิท
ช่วงชักคาย ลูกสูบเคลื่อนที่จากศูนย์ตายล่าง ขึ้นสู่ศูนย์ตายบน ลิ้นไอดีปิด ลิ้นไอเสียเปิด แก๊สไอเสียออกจากกระบอกสูบ ผ่านลิ้นไอเสีย, ท่อไอเสีย และออกสู่ชั้นบรรยากาศภายนอกเครื่องยนต์
อาจารย์ศราวุธ จันไตรรัตน์ ตึกอุตสาหกรรม ชั้นที่ 1 ห้องพักอาจารย์สาขาวิชาช่างยนต์ วิทยาลัยการอาชีพนาหว้า มหาวิทยาลัยนครพนม